วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ


น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ




             สารประกอบไนโตรเจนในเนื้อสีแดงของผลบีทรูท จะช่วยขยายหลอดเลือดและกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตให้ไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น จากผลการวิจัยล่าสุดของออสเตรเลียพบว่า ผู้ที่ดื่มน้ำบีทรูทคั้นสดทุกเช้ามีระดับความดันโลหิตในสมองที่สดต่ำลง และมีความจำที่ดีขึ้นอีกด้วย


 2.น้ำเกรปฟรุตช่วยเผาผลาญไขมัน 


              เกรปฟรุตหมายถึงผลไม้รสเปรี้ยว มีคุณสมบัติทางเคมีเป็นฤทธิ์ร้อนจึงช่วยเผาผลาญไขมัน และลดระดับอินซูลินซึ่งเป็นตัวการของน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ในผลการวิจัยของสหรัฐพบว่าผู้ที่จิบน้ำเกรปฟรุตคั้นสดก่อนเมื้ออาหารทุกมื้อ โดยที่ไม่ได้ลดอาหารหรือไดเอ็ทนั้นมีน้ำหนักตัวที่ลดลงมากกว่า 1.5 กิโลกรัม ภายใน 3 เดือน


  3.บำรุงกระดูกด้วยน้ำมะเขือเทศ 


          นักวิทยาศาสตร์ชาวแคนนาเดียน พบว่า ไลโคปีนในน้ำมะเขือเทศสดเปรียบเสมือนธนาคารกระดูกที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและ ฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ดังนั้นหากดื่มน้ำมะเขือเทศคั้นสดวันละแก้วก็จะได้รับแคลเซียมซึ่งเทียบได้ กับการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงวัยสูงอายุ ควรบริโภคน้ำมะเขือเทศคั้นสด 2 แก้วต่อวันในระยะเวลา 4 เดือนขึ้นไป เพื่อช่วยลดอัตราการเป็นโรคกระดูกพรุน



  4.บำรุงหัวใจด้วยน้ำส้มคั้น 


                    สารฟลาโวนอยในผลส้มจะช่วยลดอัตราไขมันเลว (LDL) และเพิ่มอัตราไขมันดี (HDL) ซึ่งส่งผลต่อระดับคอเลสตอรอลในร่างกายลดต่ำลง นักวิทยาศาสตร์ชาวบราซิลได้ ทำการวิจัยพบว่าในน้ำส้มคั้นสด ช่วยลดความดันโลหิต บำรุงระบบการไหลเวียนโลหิตและหลอดเลือด และยังช่วยป้องกันโรคหัวใจอีกด้วย


 5.น้ำเลมอนบำรุงตับ ป้องกันนิ่ว


              การดื่มน้ำเลมอนคั้นสดปริมาณ 8 ออนซ์ผสมกับน้ำเปล่าในแต่ละมื้อ ช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำดีได้มากขึ้น ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานปกติตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยของศูนย์โรคไตในซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนียเผยว่า ผู้ป่วยติดเชื้อทางเดินปัสสาวะที่ดื่มน้ำเลมอนผสมกับน้ำเปล่าในอัตรา 4.2 เป็นประจำทุกวันจะช่วยลดขนาดก้อนนิ่วในไตได้ โดยมีฤทธิ์เข้าไปละลายก้อนนิ่วในถุงน้ำดีและไตแล้วขับออกมาทางปัสสาวะ รวมทั้งช่วยฆ่าแบคทีเรีย และยังช่วยให้อัตราของกรดฟอสฟอริกในปัสสาวะลดลงจาก 1% เหลือเพียง 0.13% ซึ่งเป็นผลดีต่อร่างกาย

  6.น้ำสับปะรดบำรุงข้อต่อ


            จากผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์เป็นบทความในหัวข้อ "Cellular and Molecular Life Sciences" กล่าวไว้ว่า เอนไซม์บรอมิเลน (Bromelain) ช่วยบำรุงข้อต่อในอวัยวะต่าง ๆ และมีฤทธิ์บรรเทาอาการของโรคไซนัสอักเสบ (Sinusitis) โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis) โรคไขข้ออักเสบ (Rheumatoid arthritis) และลดอาการเบอร์ไซติส (Bursitis) หรืออาการบวมอักเสบของข้อต่อที่หัวไหล่ได้ โดยจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียทำให้อาการไม่เรื้อรัง นอกจากนี้ยังกล่าวถึงวิตามินซีที่มีในสับปะรด ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis) โรคปริทันต์ หรือรำมะนาด (Periodontal disease) อันเป็นโรคที่ส่งผลให้เกิดโรคหัวใจ และโรคลมอัมพาต หรืออาการเส้นเลือดในสมองแตก (Stroke) ได้อีกด้วย






เเหล่งที่มา    http://health.kapook.com/view32038.html





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น